ในประวัติศาสตร์รัสเซีย ยุค 1900s ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วน การเปลี่ยนแปลง และการปฏิวัติครั้งใหญ่หลายครั้ง หนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดและมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประเทศก็คือ “การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์” (February Revolution) ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1917 การปฏิวัตินี้ได้นำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์รอมานอฟที่ครองราชย์มาหลายศตวรรษ และการกำเนิดสาธารณรัฐรัสเซีย
เพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้ ลองย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รัสเซียเป็นจักรวรรดิที่มีขนาดใหญ่และทรงอำนาจ แต่ประสบปัญหาภายในอย่างรุนแรง ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมสูงมาก ชนชั้นสูงมีอำนาจและความมั่งคั่ง ขณะที่ชนชั้นกรรมกรและชาวนาส่วนใหญ่อยู่ในสภาพยากจน จักรพรรดิ निकोलस II ผู้ครองราชย์อยู่ในช่วงนั้น มักถูกวิจารณ์ว่าเป็นผู้ปกครองที่ล้าหลังและไม่สนใจปัญหาของประชาชน
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 โหมกระหน่ำไปทั่ว ยิ่งทำให้ความทุกข์ยากของประชาชนรัสเซียเพิ่มขึ้น การสูญเสียทหารจำนวนมาก การขาดแคลนอาหาร และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้เกิดความไม่滿ใจและความโกรธเคืองต่อรัฐบาลจักรพรรดิ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1917 ความตึงเครียดก็ถึงจุดแตกหัก การประท้วงของชาวนาและกรรมกรในเมืองหลวงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พัฒนาเป็นการจลาจลขนาดใหญ่ ชาวเมืองเรียกร้องให้จักรพรรดิสละราชบัลลังก์
การลุกฮือของมหาชนและความต้านทานจากทหาร
การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์เป็นการปฏิวัติที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรก การประท้วงถูกนำโดยกลุ่มผู้หญิงที่เรียกร้องให้มีอาหารราคาถูก และยับยั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 จากนั้นการประท้วงก็ขยายวงกว้างไปยังกลุ่มกรรมกรและนักเรียน
ความรุนแรงเริ่มขึ้นเมื่อทหารจักรพรรดิซึ่งได้รับคำสั่งให้สลายการชุมนุม ได้ปะทะกับผู้ประท้วง และมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทหารหลายนายได้ร่วมมือกับผู้ประท้วงและหันหลังให้กับราชวงศ์
เมื่อทหารหันไปสนับสนุนผู้ประท้วง ราชวงศ์รอมานอฟก็เริ่มสั่นคลอนอย่างรวดเร็ว จักรพรรดิ निकोलस II พยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุด
ความล่มสลายของราชวงศ์รอมานอฟ
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 1917 (ตามปฏิทินเก่า) จักรพรรดิ निकोलस II สละราชบัลลังก์ และราชวงศ์รอมานอฟที่ครองราชย์มาเป็นเวลาสามศตวรรษก็ล่มสลาย
การล่มสลายของราชวงศ์รอมานอฟนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวภายใต้การนำของ Prince Georgy Lvov
Vladimir Lenin และพรรคบอลเชวิก
หลังจากการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ กลุ่ม Bolsheviks ซึ่งนำโดย Vladimir Lenin ได้เข้ามามีอิทธิพลในรัสเซีย พวกเขาระบุว่ารัฐบาลชั่วคราวไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ และเรียกร้องให้มีการปฏิวัติครั้งที่สอง
ในเดือนตุลาคม 1917 (ตามปฏิทินเก่า) Bolsheviks ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลชั่วคราวผ่านการปฏิวัติเดือนตุลาคม ซึ่งนำไปสู่การสถาปนาสหภาพโซเวียต
Vladimir Lenin เป็นผู้นำของรัสเซียในช่วงหลังการปฏิวัติ และเขานำพารัสเซียเข้าสู่ยุคใหม่ของลัทธิคอมมิวนิสต์
ความสำคัญของการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์
การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์เป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อรัสเซียและโลก การล่มสลายของราชวงศ์รอมานอฟได้ยุติระบอบสมบูรณาญาสิทธิ patriarchal และเปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมครั้งใหญ่ในประเทศ
-
การกำเนิดสาธารณรัฐรัสเซีย: การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์นำไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐรัสเซีย
-
การล่มสลายของระบอบสมบูรณาญาสิทธิ patriarchal : การปฏิวัตินี้ได้ยุติระบอบสมบูรณาญาสิทธิ patriarchal ที่ครองอำนาจมานานและเปิดทางให้เกิดสังคมที่เท่าเทียมมากขึ้น
-
การจุดประกายการปฏิวัติทั่วโลก: การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจแก่ขบวนการปฏิวัติและการเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมทางสังคมในประเทศอื่นๆ
Vladimir Lenin
Vladimir Ilyich Lenin เป็นผู้นำของพรรค Bolsheviks และเป็นผู้ริเริ่มการปฏิวัติเดือนตุลาคมซึ่งนำไปสู่การสถาปนาสหภาพโซเวียต
Lenin เป็นนักคิดและนักปฏิวัติที่ชาญฉลาดและมีวิสัยทัศน์ เขาเชื่อว่าคอมมิวนิสต์เป็นระบบเศรษฐกิจที่ยุติธรรมและจะนำไปสู่สังคมที่ไม่มีชนชั้น
| ชื่อ | เกิด-เสียชีวิต |
|—|—|
| Vladimir Lenin | 22 เมษายน 1870 - 21 มกราคม 1924 |
Lenin เป็นตัวละครสำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซียและโลก การปฏิวัติเดือนตุลาคมที่นำโดยเขานั้นได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของรัสเซีย และมีอิทธิพลต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก
บทสรุป
การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย การล่มสลายของราชวงศ์รอมานอฟและการกำเนิดสาธารณรัฐรัสเซียได้เปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางสังคม และการเมือง